แนะนำ 6 เซรั่มสำหรับผิวผสม อัพเดทล่าสุดปี 2568

img promotionsimg promotions2
สั่งซื้อออนไลน์และรอรับสินค้าจากที่บ้าน วันนี้มาแนะนำร้านออนไลน์ที่มีสินค้ามากมายให้เลือก ที่เราไม่ต้องออกไปซื้อของข้างนอก
ราคาเด็ดถุกใจลุกค้าแน่นอน ราคาที่ไม่แพง เราขอแนะนำ เซรั่มสำหรับผิวผสม  สินค้าทางอินเตอร์เน็ต  ราคาพิเศษส่งให้คุณลูกค้าถึงหน้าบ้าน สั่ง เซรั่มสำหรับผิวผสม  ไป ราคาถุกกว่าร้านอื่นๆ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ลดราคาลงมาอีก สินค้าดีๆ ราคาถุก ส่งไว คุณภาพเกินราคา ตอนนี้ลองใช้มาซักพักใช้ได้ดี ไม่พบปัยหาเลยกับทางร้านค้า

     คุณรู้หรือไม่? ว่าปัจจุบันนี้"เซรั่มสำหรับผิวผสม"นั้นโดยมีทั้ง เซรั่มสำหรับผิวผสม แล้วแบบนี้คุณจะทราบได้อย่างไรว่าในแต่ละรุ่นหรือประเภทนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร? หรือเซรั่มสำหรับผิวผสม ยี่ห้อไหนดี? ราคาแพงไหม? ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาเซรั่มสำหรับผิวผสมดีๆสักรุ่น วันนี้เราได้จัดอันดับ แนะนำ เซรั่มสำหรับผิวผสมคุณภาพดีมาให้คุณได้เลือกกันแล้วดังนี้

อย่างที่ทราบกันดีว่า เซรั่ม คือ สกินแคร์บำรุงผิวชนิดหนึ่งที่มีส่วนผสมเข้มข้นและมีโมเลกุลของส่วนประกอบที่มีขนาดเล็กมากจึงทำให้มีคุณสมบัติในการดูแลและบำรุงผิวของคุณได้อย่างล้ำลึก สามารถแก้ไขปัญหาผิวของคุณได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ ยังมีเนื้อสัมผัสที่มีความบางเบาจึงทำให้คุณสามารถใช้สกินแคร์ชนิดนี้ก่อนจะลงครีมบำรุงผิวในขั้นตอนถัดไปได้อย่างสะดวก


เซรั่มนั้นมีอยู่มากมายหลายชนิดแตกต่างกันไปตามจุดประสงค์ในการใช้และเนื้อสัมผัส ซึ่งแน่นอนว่า ผู้ที่มีผิวผสมเองจะต้องปวดหัวเวลาที่เลือกใช้เซรั่มเป็นอย่างมาก เนื่องจากสภาพผิวที่มีความแตกต่างกันไปในแต่ละจุดบนผิวหน้า วันนี้เราจึงจะนำทั้งวิธีการเลือกเซรั่มสำหรับคนผิวผสมมาเป็นตัวช่วยเพื่อที่จะทำให้คุณสามารถเลือกซื้อเซรั่มที่เหมาะกับผิวผสมของคุณมากขึ้น รวมทั้งยังได้รวบรวม 10 อันดับ เซรั่มสำหรับคนผิวผสม ที่ได้รับความนิยมทั้งในเรื่องของยอดขายและคะแนนรีวิวมาให้คุณได้เป็นตัวเลือกอีกด้วยค่ะ

เพราะเงื่อนไขของผิวผสมค่อนข้างซับซ้อน ผิวบริเวณ T-zone มัน แต่บริเวณ U-zone หรือช่วงแก้มกลับแห้ง ทำให้การบำรุงเป็นเรื่องยาก แต่วันนี้ปัญหาของคุณจะหมดไป เพราะเราได้นำวิธีการเลือกที่ถูกต้องเหมาะสมมาแชร์ให้อ่านกันในบทความนี้แล้วค่ะ

แน่นอนว่า “ความชุ่มชื้น” เป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกสภาพผิว เพราะช่วยให้เกราะป้องกันผิวแข็งแรง จึงห่างไกลจากปัญหาต่าง ๆ เพียงแต่แต่ละสภาพผิวต้องการ “ปริมาณ” ความชุ่มชื้นที่แตกต่างกัน การบำรุงผิวด้วยเซรั่มที่เป็น Water-based จะช่วยเติมน้ำให้ผิวได้อย่างดี โดยที่ไม่ให้ความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะเหมือนเซรั่มที่เป็น Oil-based ซึ่งมีเนื้อหนักเกินไปจนอาจจะทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนได้

นอกจากจะโด่งดังในฐานะสาร Anti-aging แล้ว คอลลาเจนยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บน้ำใต้ชั้นผิว โดยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ชั้นผิวหนังแท้ หากมีจำนวนเพียงพอก็จะช่วยให้ผิวแข็งแรงมีสุขภาพดีอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม คอลลาเจนมีวันเสื่อมสลาย และแม้ว่าจะสามารถสร้างทดแทนได้ แต่เมื่ออายุของเราเพิ่มขึ้นอัตราการสร้างก็จะลดลง ดังนั้น การบำรุงผิวด้วยคอลลาเจนจึงเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าคุณจะเป็นคนผิวผสม หรือสุขภาพผิวดี ไม่ได้แห้งมากก็ตาม

Ceramide เป็นไขมันชนิดหนึ่ง มีบทบาทสำคัญในการเติมเต็มช่องว่างระหว่างเซลล์ เพื่อปกป้องผิวจากมลภาวะต่าง ๆ พบมากบริเวณชั้นบนสุดของหนังกำพร้า อย่างไรก็ตาม Ceramide มีองค์ประกอบของไขมันหลากหลายชนิด ก่อนการซื้อจึงควรเช็กดูว่า Ceramide ดังกล่าวมีความใกล้เคียงกับผิวไหม เพื่อลดความเสี่ยงของการระคายเคือง

Hyaluronic Acid มีหน้าที่เหมือนกับคอลลาเจนค่ะ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บน้ำใต้ชั้นผิวโดย Hyaluronic Acid 1 กรัม สามารถดูดน้ำได้ถึง 6 ลิตร จึงช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและแข็งแรงอยู่เสมอ และจะยิ่งสุขภาพดีขึ้นเมื่อได้ทำงานร่วมกับ Collagen

เกร็ดน่ารู้ : หลายคนคงสงสัยว่า แล้วสารทั้ง 2 นั้นแตกต่างกันอย่างไร Collagen เป็นสารประเภทโปรตีน ส่วน Hyaluronic Acid จัดเป็น Mucopolysaccharide นั่นเองค่ะ

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวแห้งนอกจากขาดความชุ่มชื้นแล้ว คือ การถูกทำร้ายด้วยรังสี UV การบำรุงแค่มอยส์เจอร์ไรเซอร์อาจไม่เพียงพอ แนะนำให้ฟื้นฟูผิวด้วย ซึ่งสารที่มีคุณสมบัติดังกล่าวคือ “Vitamin C”

นอกจากนี้ Vitamin C ยังช่วยยับยั้งการสะสมของเม็ดสีเมลานิน ต้นเหตุของจุดด่างดำ ฝ้ากระ และความหมองคล้ำ ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถถูกกระตุ้นให้รุนแรงขึ้นด้วยรังสี UV ทั้งสิ้น การบำรุงผิวด้วยสารดังกล่าวจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก
คำเตือน : ปรับความเข้าใจก่อนว่า Vitamin C ไม่ได้ช่วยให้ “ขาว” โทนสีผิวของเราไม่สามารถเปลี่ยนได้ขนาดนั้น เพียงแต่กระตุ้นให้กระจ่างใส ดูเปล่งปลั่งขึ้นเท่านั้นเองค่ะ

โดยทั่วไปเซรั่มมีเนื้อสัมผัส 3 แบบด้วยกันค่ะ ซึ่งแต่ละแบบให้ความรู้สึกตอนใช้ที่แตกต่างกัน จึงกลายเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ต้องคำนึงถึงก่อนซื้อด้วย เพราะทุกคนก็คงไม่อยากซื้อมาแล้วไม่ชอบจนไม่อยากใช้กันหรอกใช่ไหมล่ะคะ

เนื้อสัมผัสส่วนใหญ่ของเซรั่ม โดยเฉพาะสูตรมอยส์เจอร์ไรซิ่งและไวท์เทนนิ่ง มีข้อดีคือแทรกซึมสู่ผิวได้ง่าย ให้สัมผัสที่เนียนลื่นเหมือนน้ำ เมื่อทาแล้วจึงฝืดหน้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คุณจึงรู้สึกละมุนขณะใช้ และสบายผิวเมื่อเซรั่มซึมลงสู่ผิวเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม สำหรับที่เพิ่งซื้อครั้งแรก แนะนำให้ลองซื้อขนาดทดลองหรือไซซ์เล็กดูก่อนนะคะ เผื่อไม่ชอบสัมผัสแบบนี้ หรือเพื่อทดสอบก่อนว่าเข้ากับผิวหน้าได้ไหม

สำหรับแบบน้ำนม เนื้อจะเข้มข้นกว่าแบบน้ำขึ้นมาหน่อยค่ะ ค่อนข้างคล้ายกับโลชั่นทาผิว มีข้อดี คือ ป้องกันการระเหยของความชุ่มชื้นได้ดี เหมาะกับคนที่กังวลผิวบริเวณที่แห้งมากเป็นพิเศษ โดยหลังจากทาแล้วจะไม่เหนอะหนะผิวมากเท่าไหร่ สามารถทาครีมบำรุงอื่น ๆ ต่อได้

ปัญหาผิวเฉพาะเจาะจงที่ว่านี้ เช่น ริ้วรอย ปรับผิวให้กระจ่างใส (Whitening) หรือแม้แต่รอยคล้ำใต้ตา เพราะเนื้อเข้มข้น คืนความชุ่มชื้นและป้องกันการระเหยของน้ำได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ บางสูตรยังสามารถทำเป็นโลชั่นแพ็กทิ้งไว้ที่หน้า 2 - 3 นาที ก่อนนอนได้อีกด้วย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมสารบำรุงของผิว เหมาะกับผู้ที่ต้องการการดูแลมากเป็นพิเศษและมีเวลาในการบำรุงผิว

การลงสกินแคร์ไม่ใช่ว่าจะลงตัวไหนก่อนก็ได้นะคะ ต้องมีลำดับการทา เพื่อให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่ ถ้าลงผิดขั้นตอนสุดท้ายแล้วอาจไม่เห็นผลเลยก็ได้ โดยปกติแล้วมีขั้นตอน ดังต่อไปนี้


  1. Cleansing

  2. Face wash

  3. Lotion

  4. Essence (Liquid)

  5. Milky Essence

  6. Cream Essence

สาว ๆ บาคนอาจจะใช้ทุกผลิตภัณฑ์ตามที่กล่าวมานี้เลยก็ได้ หรือจะเลือกแค่เนื้อสัมผัสใดสัมผัสหนึ่ง จากนั้นจะตามด้วย Emulsion หรือ Cream ก็แล้วแต่ความต้องการ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้เป็นเพียงแค่การลงสกินแคร์ขั้นพื้นฐานเท่านั้น ใครที่ต้องการการดูแลปัญหาผิวเฉพาะเจาะจงอย่างจริงจังอาจเพิ่ม Booster เข้าไปด้วย หรือสกินแคร์ชนิดอื่น ๆ อีก โดยสามารถทาตามลำดับที่แบรนด์นั้น ๆ แนะนำมาได้เลยค่ะ

ถึงเวลาที่หลายคนตั้งตารอคอยกันแล้ว มาดูกันดีกว่าค่ะว่ามีเซรั่มสูตรไหนมงลงกันบ้าง แต่ก่อนอื่นต้องขอเตือนกันสักนิดว่า อย่าลืมคำนึงถึงปัญหาผิวของตัวเองด้วยนะคะ เพราะบางคนก็จะซื้อแต่สูตรที่คนใช้เยอะอย่างเดียว ไม่ทันได้ระวังว่านั่นอาจไม่เข้ากับผิวของคุณเลยก็ได้ !

เซรั่มวิตามินซีที่อยู่ในดวงใจของสาว ๆ หลายคน เพราะมีส่วนผสมที่จัดเต็มไปด้วยอนุพันธ์วิตามินซีในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป หลายคนยังชอบเนื้อสัมผัสที่เป็นน้ำบางเบา สามารถซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ผู้ใช้ส่วนใหญ่เห็นผลทั้งในเรื่องของความกระจ่างใสที่เพิ่มขึ้นและรูขุมขนที่เนียนกระชับเล็กลง แต่มีความเห็นที่ติงในเรื่องของส่วนผสมจากน้ำหอมที่อาจจะทำให้เกิดการแพ้ระคายเคืองได้

หนึ่งในสกินแคร์ตัวท็อปของแบรนด์นี้เลยค่ะ ต่อให้รีแพ็กเกจใหม่กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง คนก็ยังคงถามหากันอยู่เสมอ มีจุดเด่นอยู่ที่ส่วนผสมหลักจากน้ำแร่ Green Mineral ที่เป็นสารสกัดจากพืชพันธุ์นานาชนิดผ่านเทคโนโลยี Water Zipper และ Ocean Brew ให้ผิวชุ่มชื้นยาวนานและได้รับการฟื้นฟูกลับมาดูเปล่งปลั่ง โดยมีเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมเร็ว ไม่เหนอะหนะผิว เหมาะกับสาวผิวผสมที่ขาดน้ำ

เซรั่มขวดนี้มี Zinc Gluconate ที่ช่วยลดความมันส่วนเกินบนผิวหน้าได้ อีกทั้งยังมีส่วนผสมของ Malic Acid ที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้รูขุมขนกระชับเล็กลงและเสริมความแข็งแรงให้กับชั้นผิว จึงทำให้สามารถรักษาความชุ่มชื้นในผิวหน้าได้ดียิ่งขึ้น ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะชื่นชอบเนื้อสัมผัสที่เบาบางของเซรั่มซึ่งสามารถซึมลงผิวได้ง่าย แต่มีบางความเห็นที่กังวลในเรื่องของส่วนผสมที่มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์

แบรนด์น้องใหม่ที่กำลังมาแรงในไทยจากเกาหลี มีจุดเด่นของส่วนผสมที่ช่วยในเรื่องของการลดเลือนจุดด่างดำและเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น Vitamin C, Niacinamide และ Arbutin นอกจากนี้ ผู้ใช้หลายคนยังติดใจในเรื่องของเนื้อสัมผัสที่บางเบา สามารถซึมลงสู่ผิวได้อย่างง่ายดาย ไม่ทิ้งความเหนียวไว้บนใบหน้า จึงทำให้ใช้ได้ทั้งในตอนเช้าและตอนกลางคืน อีกทั้งยังมีราคาที่ไม่แพงเกินไป ถือว่าคุ้มค่ากับการใช้งานเลย

ผลิตภัณฑ์มาแรงจากเกาหลีอีกตัวที่จัดว่าเป็นเซรั่มที่มีครบในทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออกไปเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมา รวมทั้งการสลายไขมันที่อุดตันในรูขุมขนออกไป ช่วยเติมความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวอย่างเหมาะสมอีกด้วย ทำให้เป็นที่ถูกใจของผู้ที่มีสภาพผิวผสมเป็นอย่างมาก เพราะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาผิวที่เกิดจากสภาพผิวที่แตกต่างกันทั่วผิวหน้าได้อย่างดี ที่สำคัญยัง มีราคาไม่แพงเกินไปด้วยค่ะ

เซรั่มสูตรนี้มีจุดเด่นทำให้เป็นที่นิยม คือ การใช้สารต้านอนุมูลอิสระนานาชนิดมาเป็นส่วนผสมหลักของเซรั่มไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี วิตามินอี และ Coenzyme Q10 ซึ่งล้วนแล้วแต่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับผิว ในขณะเดียวกันก็มีส่วนผสมของ Ceramide NP ที่ช่วยดูแลผิวในเรื่องของการรักษาความชุ่มชื้นได้ สาว ๆ ที่ใช้หลายคนยังประทับใจเรื่องของเนื้อสัมผัสที่เบาบางและสามารถซึมลงสู่ผิวได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

เซรั่มขวดนี้กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในบรรดาสาว ๆ ที่มีผิวผสม เพราะเป็นสูตรที่เหมาะกับทุกสภาพผิว สามารถใช้ความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างพอดี ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติอย่างสารสกัดจากเมล็ดองุ่นและน้ำมันจากเมล็ด Parsley ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว ผู้ใช้หลายคนค้นพบว่าหลังจากที่ใช้เซรั่มขวดนี้แล้วผิวมีความนุ่มและเนียนมากขึ้น ความมันบริเวณ T-Zone ลดลงอีกด้วย

ขวดนี้ก็มาจากแบรนด์ดังของเกาหลีเช่นกัน ซึ่งมียอดขายติดอันดับท็อปฮิตมาเป็นเวลายาวนาน ซึ่งจุดสำคัญที่ทำให้หลายคนรักและซื้อมาใช้ซ้ำอย่างเป็นประจำ คือ การใช้น้ำสกัดจากชาเขียวเข้มข้นที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างดีเยี่ยมและสามารถสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังถูกใจเนื้อสัมผัสที่มีความบางเบาและสามารถซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งมีกลิ่นหอมชาเขียวอ่อน ๆ ชวนผ่อนคลายขณะใช้งานอีกด้วย

เซรั่มรุ่นนี้เป็นตัวท็อปจากแบรนด์ดังของฝรั่งเศส ไฮไลท์สำคัญในส่วนผสม คือ Probiotic เป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อผิวซึ่งได้จากการหมักยีสต์ รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยี Microbiome ที่จะมาช่วยปรับสมดุลของเซลล์ผิวให้มีความเหมาะสมมากขึ้น ดังนั้น ผิวของคุณก็จะแข็งแรงและไม่ถูกทำลายได้โดยง่ายจากปัจจัยต่าง ๆ ผู้ใช้เซรั่มขวดนี้ให้คะแนนบวกในเรื่องของผิวที่มีความเนียนุ่มชุ่มชื้นขึ้น รูขุมขนมีความกระชับเล็กลง

เซรั่มที่มียอดขายเป็นอันดับต้น ๆ ในกลุ่มสกินแคร์ประเภทเดียวกันจากทั่วโลก มีจุดเด่นที่การใช้เทคโนโลยี ChronoluxCB™1 ผสานเข้ากับสารสกัด Bifida Ferment Lysate ที่สามารถฟื้นฟูและบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวห่างไกลความแห้งกร้านและยังเติมพลังให้ผิวของคุณนั้นแข็งแรงมีสุขภาพดีมากขึ้น ผู้ใช้หลายคนยังลงคะแนนบวกให้กับประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอยได้อย่างเห็นผลอีกด้วย

ได้เซรั่มที่ถูกใจกันแล้วหรือยังเอ่ย อย่างน้อยก็คงมีที่เล็ง ๆ ไว้บ้างแล้วใช่ไหมคะ แต่สำหรับใครที่ยังลังเลไม่รู้จะเลือกซื้อสูตรไหนดี ลองคิดตามวิธีการเลือกซื้อดูนะคะ อันดับแรกคำนึงถึงส่วนผสมที่มีคุณสมบัติเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ จากนั้นพิจารณาจากเนื้อสัมผัสอีกทีนึง และอย่าลืมเลือกบนพื้นฐานปัญหาผิวของตัวเองด้วยนะคะ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับสาว ๆ ทุกคน ครั้งหน้าเราจะมีบทความดี ๆ อะไรมาให้อ่านกันอีก อย่าลืมติดตามกันนะคะ สำหรับวันนี้คงต้องลากันไปก่อน ไว้พบกันใหม่บทความหน้าค่ะ