ซอสมะเขือเทศถือเป็นซอสประจำบ้านของหลาย ๆ ครอบครัว เพราะสามารถใช้ประกอบอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะปรุงเพิ่มรสชาติหรือเอาไว้จิ้มกับเมนูทอดต่าง ๆ มีรสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ รับประทานง่าย แถมยังมีวิตามินมากมาย นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถทานเผ็ดได้ ช่วยให้เด็กเจริญอาหารมากขึ้นด้วย ซึ่งในบ้านเราก็มีซอสมะเขือเทศอยู่มากมายหลายยี่ห้อให้เลือก ทั้งซอสมะเขือเทศแบรนด์ไทย เช่น โรซ่า, ภูเขาทอง และซอสมะเขือเทศนำเข้า เช่น Fountain อีกทั้งยังมีซอสมะเขือเทศที่ใช้วัตถุดิบในไทยและวัตถุดิบจากต่างประเทศ จึงทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกว่าเลือกยากเหลือเกิน เพราะไม่รู้ว่าจะซื้อยี่ห้อไหนดีจึงอร่อยและดีต่อสุขภาพด้วย
ในบทความนี้ เราได้นำ 10 อันดับ ซอสมะเขือเทศ ที่ได้รับความนิยมและมีจำหน่ายในประเทศไทยมานำเสนอให้ทุกคนได้รู้จัก พร้อมกับวิธีเลือกซอสมะเขือเทศที่ดีและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ รวมถึงวิธีการเก็บรักษาซอสมะเขือเทศอย่างถูกต้องเพื่อการยืดอายุซอสให้สามารถใช้ได้นานขึ้นในช่วงท้ายบทความอีกด้วย ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ
ประโยชน์ของซอสมะเขือเทศนั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซีที่ช่วยเสริมภูมิต้านทานของร่างกายให้แข็งแรง ไม่เป็นหวัดง่าย วิตามินเอที่ช่วยในการมองเห็นและช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วหลังการเจ็บป่วย ไม่เพียงเท่านั้น มะเขือเทศยังมีสารไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อมะเขือเทศถูกนำไปผ่านความร้อน ไลโคปีนนี้เป็นสารสีแดงที่นอกจากจะอยู่ในมะเขือเทศแล้วยังมีอยู่ในมะละกอและแตงโมอีกด้วย โดยสารนี้จะทำหน้าที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็ง ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดและโรคหัวใจ แถมยังช่วยให้ผิวพรรณสวยใสขึ้นอีกด้วยค่ะ
จริงอยู่ที่ว่า เราสามารถรู้ได้ว่าซอสมะเขือเทศยี่ห้อนั้น ๆ อร่อยหรือไม่ ก็ต่อเมื่อได้ลองรับประทานดู แต่สำหรับผู้ที่ไม่เคยรับประทานซอสมะเขือเทศมาก่อน หรืออยากลองซอสมะเขือเทศยี่ห้อใหม่ ๆ บ้าง ก็ขอให้ลองพิจารณาจากวิธีการเลือกที่เราจะนำมาบอกต่อจากนี้ค่ะ
ซอสมะเขือเทศไม่ได้มีแต่มะเขือเทศเป็นส่วนประกอบเท่านั้น แต่ยังมีส่วนประกอบของเครื่องปรุงรสชาติต่าง ๆ เช่น เกลือที่ช่วยเพิ่มความกลมกล่อม น้ำส้มสายชูหรือกรดต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความเปรี้ยว เครื่องเทศที่ช่วยเพิ่มความหอมน่ารับประทาน และน้ำตาลทำหน้าที่ชูรสชาติและถือเป็นหัวใจสำคัญของซอสมะเขือเทศ
อย่างไรก็ตาม ซอสมะเขือเทศที่ดีนั้นไม่ควรมีปริมาณโซเดียมและน้ำตาลที่มากเกินไป โดยปริมาณโซเดียมที่เหมาะสมกับร่างกายใน 1 วันคือ ไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเทียบเท่ากับเกลือ ¾ ช้อนชา และไม่ควรบริโภคน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชา หรือ 2,400 มิลลิกรัมต่อวัน ดังนั้น ควรรับประทานซอสมะเขือเทศแต่พอเหมาะตามสัดส่วนการบริโภคที่แนะนำอยู่บนฉลากสินค้านะคะ
นอกจากสารที่ช่วยเพิ่มความคงตัวและทำให้ซอสมะเขือเทศมีความหนืด ไม่แยกชั้นออกจากกันแล้ว ในบางยี่ห้อก็มีการใส่สารเติมแต่งอื่น ๆ ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น สารกันบูด, สีผสมอาหาร เป็นต้น
หากเรารับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของสารกันบูดเข้าไปมาก ๆ จะทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ท้องเสีย และหากได้รับสารนี้ในระยะยาวอาจทำให้เกิดเลือดออกจากอวัยวะภายในร่างกาย เป็นอัมพาตและอาจส่งผลให้ต่อเด็กในครรภ์สำหรับคุณแม่ได้ ส่วนสีสังเคราะห์หากได้รับในปริมาณมากเกินไปก็อาจจะทำให้วิงเวียนศีรษะและคลื่นไส้อาเจียนได้
ในปัจจุบัน บรรจุภัณฑ์ของซอสมะเขือเทศที่ขายอยู่ในไทยจะแบ่งออกเป็นหลายประเภทด้วยกัน ได้แก่ ขวดแก้ว, ขวดบีบ, ซองเล็ก, ถุงเติมขนาดใหญ่ และแกลลอนเติมขนาดใหญ่ ซึ่งเราสามารถเลือกใช้ได้ตามความสะดวกเลยค่ะ
ซอสมะเขือเทศที่บรรจุในขวดแก้วจะมีข้อดีในเรื่องของความคงทนของบรรจุภัณฑ์ แต่ก็มีข้อเสียที่มีน้ำหนักค่อนข้างเยอะ เทยาก และเสี่ยงต่อการตกแตกได้ง่าย ส่วนซอสมะเขือเทศแบบขวดบีบจะให้ความสะดวกมากขึ้น เพราะสามารถบีบซอสมะเขือเทศออกมาใช้ได้ทันที ส่วนซอสแบบซองเล็ก จะเหมาะสำหรับพกพาหรือทานเป็นครั้งคราวในปริมาณที่ไม่มาก และแบบสุดท้าย คือ แบบถุงเติมหรือแกลลอนขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับธุรกิจร้านอาหาร ภัตตาคาร โดยจะมีข้อได้เปรียบในเรื่องของราคา ซึ่งจะประหยัดกว่าบรรจุภัณฑ์ทั้ง 3 ประเภทที่กล่าวมาก่อนหน้า ทำให้ลดต้นทุนในการผลิตได้ดีทีเดียวค่ะ
ซอสมะเขือเทศที่ยังไม่ได้เปิดนั้นจะมีอายุ 1 ปี แต่หากเปิดใช้งานแล้วควรเก็บในตู้เย็นและรับประทานให้หมดภายใน 4-6 เดือน อย่างไรก็ตาม หากซอสมะเขือเทศของคุณมีสี เนื้อซอส มีรสชาติที่เปลี่ยนไป หรือมีเชื้อราขึ้นภายใน ขอแนะนำให้ทิ้งไปแล้วซื้อขวดใหม่เลยจะปลอดภัยที่สุดค่ะ
ทั้งนี้ หลายคนอาจกังวลว่าซอสมะเขือเทศที่กลายเป็นสีดำตรงบริเวณปากขวดจะทำให้ซอสด้านในเป็นอะไรหรือไม่ คำตอบก็คือซอสภายในยังคงทานได้ตามปกติค่ะ เพียงแต่สีดำที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเพราะตัวซอสที่หลงเหลืออยู่หลังจากการเทครั้งก่อนหน้ามีการสัมผัสอากาศมากเกินไปจึงกลายเป็นสีดำ เหมือนกับผลไม้บางชนิดที่ปลอกทิ้งไว้แล้วจะกลายเป็นสีดำนั่นเองค่ะ
เมื่อทุกคนได้ทราบวิธีการเลือกซอสมะเขือเทศที่ถูกต้องกันไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาที่จะได้พบกับ 10 อันดับ ซอสมะเขือเทศ ที่เราตั้งใจคัดสรรมาให้ทุกคนค่ะ และสำหรับคนที่ไม่มีเวลาออกไปเลือกซื้อด้วยตัวเองเราก็มีช่องทางการซื้อแบบออนไลน์มาให้ด้วยค่ะ ถ้าพร้อมแล้วอย่ารอช้า ไปดูกันเลยค่ะ
ซอสมะเขือเทศที่ได้รับความนิยมจากประเทศอเมริกาขวดนี้ใช้มะเขือเทศสดคุณภาพแน่นที่ปลูกใน California ให้รสชาติที่กลมกล่อมเข้มข้น ทำให้รู้สึกเหมือนได้ทานอาหารสไตล์อเมริกัน ดีต่อสุขภาพเพราะไม่มีไขมัน บรรจุในขวดบีบ สะดวกต่อการใช้งาน ดีต่อสุขภาพ เพราะประกอบไปด้วยวิตามินเอที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย ช่วยบำรุงสายตา และวิตามินซีที่ช่วยให้ร่ายกายแข็งแรง บำรุงผิว แถมช่วยลดคอเลสเตอรอลได้อีกด้วยค่ะ
หลายคนรู้จักแบรนด์ ฉั่ว ฮะ เส็ง จากน้ำพริกเผาอันเลื่องชื่อ อย่างไรก็ตาม แบรนด์นี้ยังมีผลิตภัณฑ์อีกมากมาย ซอสมะเขือเทศก็เช่นกันค่ะ อร่อยเข้มข้นเพราะผลิตจากมะเขือเทศถึง 75% ไม่เจือสี สามารถทานกับของทอดประเภทต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความอร่อย หรือจะนำไปประกอบอาหารสไตล์อิตาเลียน เช่น ผัดสปาเก็ตตี้, แฮมเบอร์เกอร์, บาร์บีคิว หรือมักกะโรนี ก็ช่วยให้อร่อยได้ไม่แพ้กัน โดยมีให้เลือกซื้อหลากหลายรูปแบบทั้งแบบซอง, แบบขวดและแบบแกลลอนเติมค่ะ
ซอสมะเขือเทศตราเด็กสมบูรณ์ที่ทุก ๆ คนรู้จักกันดี สูตรนี้มีความพิเศษที่ใช้มะเขือเทศสดแท้ 100% รวมถึงใช้กรรมวิธีที่ทันสมัยในการผลิตจึงได้ซอสมะเขือเทศที่มีกลิ่นหอมและรสชาติอร่อย สามารถใช้รับประทานคู่กันได้กับหลายเมนู ไม่มีส่วนผสมของผงชูรส, วัตถุกันเสีย, สี และสารปรุงแต่งอื่น ๆ จึงสามารถทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มาในแพ็กเกจถุงเติม เหมาะสำหรับร้านอาหาร นอกจากนี้ ยังมีแบบขวดแก้วให้เลือกซื้อใช้งานตามสะดวกด้วยค่ะ
ซอสมะเขือเทศรูบร้าที่นำเข้าจากประเทศอิตาลีต้นตำรับของอาหารอิตาเลียนที่ทุกคนรู้จัก ผลิตจากมะเขือเทศคุณภาพดีในประเทศอิตาลีแท้ ๆ ถึง 73.5% จึงมีความหอมอร่อย เข้มข้นและกลมกล่อมได้กลิ่นอายความเป็นต้นตำรับขั้นสุดเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ จากยุโรป ใช้ทานควบคู่กับของทอดหรือใช้ทำอาหารอิตาเลียนประเภทอื่นได้ นอกจากนี้ ยังปราศจากกลูเตนที่มาจากแป้งต่าง ๆ ที่อาจสะสมในลำไส้ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังลดน้ำหนักหรือคนที่แพ้สารกลูเตนค่ะ
ซอสมะเขือเทศในขวดบีบใช้งานง่าย นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย เจ้าตัวนี้พิเศษตรงที่มีส่วนผสมของมะเขือเทศมากที่สุดถึง 78% ทำให้ซอสมะเขือเทศมีรสชาติเข้มข้นสามารถนำไปปรุงอาหารได้หลากหลายชนิด ผลิตโดยกรรมวิธีที่ทันสมัย จึงสามารถมั่นใจได้ในความสะอาดไม่มีสารปนเปื้อน ไม่เพียงเท่านั้น ซอสตัวนี้ยังดีต่อสุขภาพ เพราะไม่มีส่วนผสมของผงชูรส ไม่เจือสี และไม่มีสารกันเสียอีกด้วย เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะลูกน้อยที่คุณรักค่ะ
ซอสมะเขือเทศจากแบรนด์ "Good Life" แบรนด์ที่คนรักสุขภาพหลายคนต้องรู้จัก เพราะเขาทำซอสปรุงรสที่ดีต่อสุขภาพและได้รับความนิยมหลายตัวด้วยกัน ซึ่งซอสมะเขือเทศตัวนี้มีการลดปริมาณน้ำตาลลงจากเดิม 50% โดยใช้สารให้ความหวานทดแทน พร้อมกับลดปริมาณเกลือโซเดียมที่เป็นสาเหตุของโรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง ลงจากซอสปกติถึง 60% โดยเปลี่ยนไปใช้เกลือโปแตสเซียมที่สามารถลดความดันโลหิตได้ ดังนั้นซอสตัวนี้จึงปลอดภัยมากกว่าสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น เบาหวานค่ะ
อีกหนึ่งซอสมะเขือเทศที่หลาย ๆ คนก็คงจะรู้จักกันดี เพราะเป็นที่นิยมทั้งในและต่างประเทศเพราะมีต้นกำเนิดจากประเทศอเมริกาในปี 1869 ตัวซอสมีรสชาติของมะเขือเทศค่อนข้างชัดเจน มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวจากมะเขือเทศเข้มข้น และใช้น้ำเชื่อมที่ทำจากแป้งข้าวโพดในการให้ความหวาน โดยใช้วัตถุดิบเกรดนำเข้าคุณภาพสูงในการผลิตทั้งหมด และได้ผ่านการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์หรือที่เรียกว่า Kosher นอกจากนี้ ยังมีบรรจุภัณฑ์ให้เลือกซื้อหลากหลายแบบอีกด้วยค่ะ
ซอสมะเขือเทศจากโครงการหลวงที่ใช้มะเขือเทศที่ปลูกในแถบอีสานบนพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง ตัวซอสมีความเข้มข้นและชุ่มฉ่ำเหมือนกินมะเขือเทศจริง ๆ และมีกลิ่นหอมจะเครื่องเทศ นอกจากความอร่อยแล้วยังมีประโยชน์จากวิตามินเอและวิตามินซี ที่ช่วยสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายแข็งแรง ทั้งยังไม่มีส่วนผสมของผงชูรส, สี และวัตถุกันเสียอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีสูตรโซเดียมต่ำน้ำตาลน้อยสำหรับคนที่รักสุขภาพให้เลือกซื้ออีกด้วยค่ะ
ซอสมะเขือเทศแบรนด์ไทยที่มีชื่อเสียงจากซอสปรุงรสประเทศต่าง ๆ และในเรื่องของซอสมะเขือเทศก็ไม่แพ้กันเพราะคุณภาพคับแก้ว ตัวซอสมีเนื้อเข้มข้นเพราะผลิตจากมะเขือเทศพันธุ์ดีนำเข้าจากออสเตรเลีย แถมไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเพราะซอสมะเขือเทศตัวนี้ไม่มีส่วนผสมของผงชูรส ไม่มีการเจือสี เป็นซอสมะเขือเทศที่เป็นที่นิยของร้านอาหารต่าง ๆ บรรจุในขวดแก้วมีทั้งขนาด 220 กรัม และ 660 กรัม เลือกใช้งานได้ตามความต้องการเลยค่ะ
หนึ่งในซอสมะเขือเทศที่เรารู้จักกันดี ที่จริงแล้วนั้นมีดีกว่าที่คิด เพราะเป็นซอสมะเขือเทศที่นอกจากจะมีรสชาติอร่อยกลมกล่อมแล้ว ยังมีจุดเด่นตรงที่ไม่ผสมแป้ง ไม่เจอสี ไม่ใส่ผงชูรส แถมไม่มีวัตถุกันเสียอีกด้วย มั่นใจได้ในความสะอาดเพราะเขาใช้กรรมวิธีการบรรจุซอสในระบบปลอดเชื้อ ไม่มีสิ่งปนเปื้อนเข้าไปในซอส และด้วยความที่ตัวซอสมีเนื้อเนียนเทง่ายไม่แยกชั้นออกเป็นเนื้อกับน้ำ มีราคาไม่แพง และหาซื้อได้ง่าย จึงทำให้เป็นที่นิยมของคนไทยอย่างมากค่ะ
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า ซอสมะเขือเทศมีอายุ 1 ปี หากยังไม่ได้เปิดขวด แต่เมื่อเปิดขวดแล้วจะมีอายุเหลือเพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้น แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะถ้าหากเก็บรักษาในตู้เย็นจะสามารถยืดอายุของซอสมะเขือเทศออกไปได้ถึง 6 เดือนด้วยกัน นอกจากนี้ ยังควรรักษาความสะอาดของซอสมะเขือเทศหลังจากใช้งาน เช่น การเช็ดบริเวณปากขวดเพราะอาจมีซอสติดอยู่หลังการใช้ โดยควรเช็ดออกให้หมดก่อนจะนำไปเก็บ เพราะนอกจากซอสจะกลายเป็นสีดำทำให้ดูไม่น่ารับประทานแล้ว ยังทำให้เปิดฝาขวดได้ยากขึ้นเพราะซอสจะแข็งติดอยู่ระหว่างขวดและฝาค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 10 อันดับซอสมะเขือเทศที่เราได้นำมาเสนอ ทุกคนคงได้รู้จักซอสมะเขือเทศในด้านต่าง ๆ กันมากขึ้นแล้วใช้ไหมคะ หวังว่าวิธีการเลือกซอสมะเขือเทศที่เราได้แนะนำไปนั้น จะมีประโยชน์ต่อคุณแม่บ้านทุก ๆ คนไม่มากก็น้อยนะคะ
และเนื่องจากซอสมะเขือเทศมีส่วนผสมของน้ำตาลอยู่มาก เราจึงแนะนำให้เลือกแบบน้ำตาลน้อยสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมปริมาณน้ำตาล ผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้สูงอายุที่มีความดันสูง นอกจากนี้ ผู้ใหญ่ที่มีลูกหลานก็ควรควบคุมปริมาณการรับประทานซอสมะเขือเทศให้พอเหมาะ เพื่อป้องกันการติดหวานและลดการเกิดโรคอ้วนในเด็กด้วยนะคะ หรืออาจใช้ซอสมะเขือเทศเป็นตัวช่วยฝึกให้เด็ก ๆ รู้จักทานมะเขือเทศสดก็จะดีมากทีเดียวเลยค่ะ