9 เทรนด์ ราคาตะกรุดหลวงพ่อจำลอง รุ่นไหนดี กด!! อัพเดทล่าสุดปี 2568

แผ่น ทอง เขียน ตะ กรุ
ต: ความรู้สึกสบายมือและการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ช่วยให้จับถนัดมือ
ตะกรุดหลวงพ่อเปิ่น: ทําให้การออกกําลังกายง่ายขึ้นและสนุกสนานมากขึ้น แผ่น ทองคํา ตระ
กุด: ปราศจากน้ํายางข้นปราศจากยางธรรมชาติซึ่งหมายความว่าผลิตภัณฑ์ของเราได้รับการออกแบบและพัฒนาอย่างพิถีพิถันโดยใช้ส่วนประกอบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แผ่น ตะกรุด สี
ทอง: การออกแบบที่เพรียวบางและการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ช่วยให้จับถนัดมือ
ตะกรุดหลวงพ่อกวย: ฟื้นรูปร่างอย่างรวดเร็วหลังจากลูบไล้และจะเด้งเบาๆเมื่อคุณเคลื่อนไหว

#ตะกรุดยันต์เกราะเพชรหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค #สุดยอดแห่งพุทธานุภาพจากตําราของพระร่วง เป็นตะกรุดชั้นสูงกว่าตะกรุดใดๆทั้งปวง #เนื้อทองแดงยุคกลาง #พุทธคุณนอกจากคุ้มครองปกป้องเป็นอันดับต้นๆในแผ่นดินแล้ว ยังหนุนดวงชะตามิให้ตกต่ําทั้ง สร้างมาเพื่อหนุนนําให้ดวงให้ค้าขายดี วาสนาดีทุกวัน หนุนดวง เสริมชะตา แก้เคราะห์กรรม ล้างสิ่งไม่ดีในตัว โชคลาภสูง เมตตา #ยันต์เกราะเพชร สุดยอดแห่งพุทธานุภาพ จากตําราของพระร่วง ตัดมาจากส่วนหนึ่งของธงมหาพิชัยสงคราม เป็นศาสตร์ที่มีอํานาจสูงส่งทางด้านการส่งเสริมดวงชะตาบารมี เสริมสิริมงคล รวมไปถึงเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ โชคลาภ และยังสามารถป้องกันภัยอันตรายสะท้อนย้อนกลับไปหาตัวผู้คิดร้ายทั้งป่วง

สมเด็จฝังตะกรุดหลวงพ่อคูณ

ตะกรุดหลวงปู่นามวัดน้อยชมพู่ สุพรรณบุรี ปี 2553 ขนาดความยาว 3 นิ้ว หลวงปู่เมตตาจารมือให้ พระเกจิอาจารย์ผู้เฒ่าเรืองวิทยาคมแห่งเมืองสุพรรณบุรี ชาวบ้านต่างเรียกขนานนามของท่านว่า หลวงปู่ผู้เฒ่า หรือ หลวงปู่นาม หรือ พระอุปัชฌาย์นาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หลวงปู่นาม ได้สร้าง และพัฒนาวัดน้อยชมภู่ จนมีความเจริญรุ่งเรือง เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านและลูกศิษย์ลูกหา ตลอดจนวัตถุมงคลของหลวงปู่นาม เป็นที่สนใจของบรรดาเซียนพระ เนื่องจากวัตถุมงคลของหลวงปู่นาม มีประสบการณ์ทั้งทางด้านเมตตามหานิยม และคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย ภายหลังอุปสมบทแล้ว ได้จําพรรษาศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย จนสอบได้นักธรรมเอกตามลําดับ ในปีนั้นท่านเป็นรูปเดียวที่สามารถสอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอกของอําเภอศรีประจันต์ อีกทั้งยังสามารถท่องจําพระปาฎิโมกข์ ได้เพียง 45 วัน ท่านร่ําเรียนวิทยาคมและฝากตัวเป็นศิษย์รับใช้ ร่ําเรียนวิทยาคม กับหลวงพ่อไสว ควบคู่ไปกับการเล่าเรียนศึกษามูลกัจจายน์ บาลี อักษรขอม ไทย จึงทําให้ท่านมีความรู้แตกฉานในด้านนี้เป็นอย่างมาก เมื่อกล่าวถึง หลวงพ่อ ไสวแล้ว ชาวสุพรรณในสมัยนั้น ต่างให้ความเคารพนับถือท่านมาก ชื่อเสียงกิตติศัพท์ของท่านเลื่องลือ ด้วยท่านสามารถปลุกเสกพระในบาตร ให้วิ่งได้ ดุจมีชีวิต ดังนั้นหลวงปู่จึงได้สืบทอดพุทธาคมในสายวิชานี้มาอย่างเอกอุ ทั้งในด้านการเจริญสมถะ วิปัสสนากรรมฐาน การอธิฐานจิตเสกพระ จากนั้นจึงได้ย้ายมาจําพรรษาที่วัดน้อยชมภู่ วัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นวัดสองวัดมารวมกัน คือ วัดน้อย กับ วัดชมภู่ รวมเรียกว่า วัดน้อยชมภู่ วัดนี้เป็นวัดที่มีพระเกจิดัง สมภารเก่ง มาแต่เดิม ทําน้ําพุทธมนต์ให้เจ้าสมัยก่อน ได้ร่ําเรียนศึกษาวิชาอาคมหลวงปู่ขํากับหลวงปู่เหมือน หลวงปู่ขําท่านเป็นพระ อภิญญา สหธรรมมิกศึกษาแลกเปลี่ยนวิชา กับหลวง พ่อเนียม วัดน้อย ศิษย์สมเด็จโต หลวงปู่เฒ่า วัดค้างคาว หลวงปู่เล่าว่า หลวงปู่ขําท่านสามารถเสกพระให้เต็มวัด เพื่อไล่ขโมย เป่าไม้รวกให้มียันต์อยู่ข้างใน หลวงปู่เหมือนได้ถ่ายทอดสรรพวิชาในสายหลวงปู่ขํา ให้ท่านอย่างไม่มีปิดบัง กล่าวกันว่า หลวงปู่เหมือน ท่านเสกต่อแตนให้เต็มวัดได้ เสกใบมะขามเป็นฝูงผึ้ง เพื่อไล่ลิงได้ รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า วาจาศักดิ์สิทธิ์ หลวงปู่นามจึงได้รับถ่ายทอด วิชาในสายหลวงปู่ขําหลวงปู่เหมือนมาเต็มภูมิ และยังได้รับสืบทอดให้เก็บรักษา ไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์ ของหลวงปู่ขํา เอาไว้ มีอายุเกือบ สองร้อยปี สมัยหลวงปู่ขํายังอยู่ เสกพระให้เต็มวัดก็ใช้ไม้เท้าอันนี้ ทําน้ํามนต์ เสกต่อแตน ไล่ผี แก้คุณไสย เคาะหัวลงกระหม่อม รักษาโรค หรือบอกหวย ก็ใช้ไม้เท้าอันนี้ หลวงปู่ยังได้ไปจําพรรษาอยู่วัดระฆัง หลายหนเพื่อไปศึกษาวิชา โดยท่านได้ฝากเนื้อฝากตัวเป็นศิษย์ อยู่รับใช้ ท่านเจ้าคุณพระธรรมธาดาจารย์ หลวงปู่แนบ กล่าวถึงท่านเจ้าคุณแนบท่านเป็นพระเกจิคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้นมาก ด้วยท่านได้สืบทอดพุทธาคมในสายสมเด็จพระพุฒาจารย์โต เมื่อปี พ ศ ๒๔๘๕ วัดราชบพิธ ได้ทําพิธีปลุกเสกใหญ่ มีพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าของประเทศ อาทิ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม หลวงพ่อจาด วัดบางกะเบา หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหืบ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ หลวงพ่อขาว วัดสาวชะโงก อีกทั้งยังนิมนต์เจ้าคุณแนบ ไปอธิฐานจิตในครั้งนั้นด้วย เจ้าคุณแนบรักเอ็นดูหลวงปู่นามมาก สั่งสอนบอกวิชาหลวงปู่ไม่มีปกปิด ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ ยังได้มอบตาฤาษี ชึ่งได้รับตกทอดมาตั้งแต่สมัยสมเด็จโต ให้หลวงปู่นามเก็บรักษาไว้ ด้วยท่านเห็นว่าศิษย์ผู้นี้ มีบารมีมาก ต่อไปภายภาคหน้าจะเป็นที่พึ่งของสาธุชนทั้งหลาย จากนั้นท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่นาค วัดระฆัง ระหว่างอยู่วัดระฆังท่านสนิทกับเจ้าคุณผัน เจ้าคุณเที่ยง มาก เจ้าคุณทั้งสอง เรียกหลวงปู่นาม ว่า หลวงพี่ ตลอดมา กลับมาอยู่วัดน้อย ท่านได้ยินชื่อเสียงหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า โด่งดังมาก แม้แต่กรมหลวงชุมพร ยังได้ฝากตัวเป็นศิษย์ ท่านได้เดินทางไปยังสํานัก วัดอู่ทองปากคลองมะขามเฒ่า ฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาเล่าเรียน วิชาในสายหลวงปู่ศุข เกสโร กับหลวงพ่อสําราญ หลายวัน หลวงพ่อสําราญปกติท่านจะดุมาก แต่กลับเมตตาถูกอัธยาศัย กับหลวงปู่ ก่อนจะลากลับ ท่านได้มอบพระพุทธรูปเก่า สมัยหลวงปู่ศุข ให้หลวงปู่มา ปัจจุบันหลวงปู่ท่านยังเก็บรักษาไว้ที่กุฎิของท่านอีกทั้งหลวงปู่ยังมีความสนิทสนมถูกอัธยาศัย กับ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ พระเกจิชื่อดังเมืองสุพรรณอีกรูปหนึ่ง ท่านได้เรียนวิชาต่างๆ ในสายหลวงปู่ศุข เพิ่มเติม อีกทั้งยังฝึกวาโยกสิณ เพื่อเสกตะกรุตให้ม้วนเอง และวิชาต่างๆ หลวงปู่ท่านจะมานอนคุยกับหลวงพ่อมุ่ย บ่อยครั้ง เพื่อศึกษาแลกเปลี่ยนวิชากัน ส่วน หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย ศิษย์หลวงพ่อ ปาน วัดบางนมโค ก็มีความสนิทสนมกับหลวงปู่เป็นอย่างมาก หลวงปู่ท่านยังเคยไปอยู่กับท่าน เพื่อศึกษาในสายหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ทั้งยังเดินทางไปมาหาสู่ เรียนวิชากับ หลวงปู่คํา วัดหน่อพุทธางกุล หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ เรื่อยมา หลวงปู่ท่านยังเป็นสหธรรมมิกกับพระเกจิที่มีชื่อเสียงเมืองสุพรรณหลายรูป อาทิ หลวงพ่อจวน วัดไก่เตี้ย หลวงพ่อฮวด วัดดอนโพธิ์ทอง หลวงพ่อดี วัดพระรูป หลวงพ่อปลื้ม วัดสวนหงส์ หลวงพ่อพล วัดวังยายหุ่น ท่านเหล่านี้ล้วนสนิทชอบพอกันดีกับหลวงปู่ ศึกษาแลกเปลี่ยนวิชาบ่อย และยังเคยร่วมเสกพระหลายครั้งด้วยกัน หลวงปู่นามละสังขาร วันที่ 11 ก ค 2563 ที่โรงพยาบาลศูนย์ธรรมศาสตร์รังสิต สิริอายุ 98 ปี 11 เดือน 23 วัน โดยถือครองพรรษาที่ 69 พรรษา ตะกรุดหลวงปู่นามวัดน้อยชมพู่ สุพรรณบุรี ปี 2553 ขนาดความยาว 3 นิ้ว หลวงปู่เมตตาจารมือให้

#ตะกรุดสาริกาหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม หายากสุดๆ ความเก่าทะลุ 100 ปี #พร้อมบัตรรับรองพระแท้จากทางสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย #พุทธคุณนอกจากคุ้มครองปกป้องเป็นอันดับต้นๆในแผ่นดินแล้ว ยังหนุนดวงชะตามิให้ตกต่ํา สร้างมาเพื่อหนุนนําให้ดวงเป็นเศรษฐี ทําธุรกิจลงทุนเป็นที่หนึ่งในสายธุรกิจนั้น มั่งคั่งในโภคทรัพย์ยิ่งๆขึ้นไปทุกปี ขึ้นชื่อว่า “ตะกรุด” หลายท่านคงนึกถึงเครื่องรางโบราณ ที่สร้างมาจากแผ่นโลหะ จารอักขระเลขยันต์ แล้วเป่าเสกด้วยคาถาอาคม เพื่อให้มีพุทธคุณทางด้านต่างๆ ซึ่งในสมัยโบราณนั้น มีการสร้างตะกรุดเป็นจํานวนมาก จากพระเถราจารย์หลายท่าน เน้นอานุภาพด้านอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด เป็นส่วนใหญ่ แต่ในบางสํานักก็จะปลุกเสกให้มีเมตตามหานิยมด้วย หรืออยู่ที่อุปเท่ห์ในการใช้ตะกรุดดอกนั้นๆที่ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับวิธีการของแต่ละท่าน ตะกรุดที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ส่วนมากเป็นตะกรุดที่สร้างโดยพระเถราจารย์ชื่อดังในตํานาน อย่างเช่นตะกรุด หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ตะกรุดมหาปราบมหาระงับ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ตะกรุดลูกอมลหลวงปู่ใจ วัดเสด็จ และอื่นๆอีกหลายท่านด้วยกัน ซึ่งเป็นที่แสวงหาของนักสะสมเครื่องรางที่มีความศรัทธาในพระเถราจารย์รูปนั้นๆ เพราะเชื่อว่า หากครูบาอาจารย์ที่ปลุกเสกเครื่องราง เป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ มีพลังจิตอันแก่กล้าแล้ว ย่อมทําให้เครื่องรางดังกล่าวมีอานุภาพเกิดประสบการณ์มากนั่นเอง และอีกหนึ่งตะกรุดที่มีอานุภาพสูง เป็นที่ประจักษ์ในด้านประสบการณ์ คือ ตะกรุดหลวงพ่อกลั่น ธัมมโชติ วัดพระญาติการาม ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา ท่านเป็นพระเถราจารย์ในตํานานที่มีชื่อเสียงทั้งในด้านของการปฏิบัติกรรมฐานและการปลุกเสกวัตถุมงคลเพราะเชื่อกันว่า หลวงพ่อกลั่นนั้น เป็นผู้ที่มีความแก่กล้าในพลังจิตไม่เป็นรองใคร จึงทําให้วัตถุมงคลต่างๆที่ปลุกเสกโดยหลวงพ่อกลั่น ได้รับความนิยมอย่างมาก แม้ในอดีตหรือปัจจุบันก็ตาม สําหรับตะกรุดที่ปลุกเสกโดยหลวงพ่อกลั่น มีอยู่หลายรุ่น ส่วนมากท่านจะสร้างตะกรุดจากทองแดงและตะกั่ว แต่ละรุ่นล้วนมากด้วยประสบการณ์ จนเป็นที่เล่าขานกันมาปากต่อปาก ว่ากันว่า ตะกรุดของหลวงพ่อกลั่นโดดเด่นทางด้านอยู่ยงคงกระพัน เนื่องจากท่านมีวิชาชาตรี หรือวิชาลูกเบา ที่ไม่ต้องสักยันต์ลงไปในผิวหนัง แต่ใช้วิธีการชักยันต์เข้าตัว ซึ่งความอัศจรรย์ของวิชาลูกเบานี้ หากใครก็ตามที่จะมาทําร้ายโดยการใช้สิ่งของที่มีน้ําหนักมากมาทุ่มลงบนตัว คนที่มีวิชาลูกเบาจะรู้สึกเหมือนของชิ้นนั้น เป็นของเบา ทําให้ไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ ด้วยเหตุที่ท่านมีความเชี่ยวชาญในวิชาอยู่ยงคงกระพัน ทําให้การสร้างตะกรุดของท่านโดยส่วนมาก จะโดดเด่นในอานุภาพอยู่ยงคงกระพันและทํากินขึ้นทํากินเจริญเป็นหลัก ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบที่ปรารถนาของคนโบราณ หากมีตะกรุดหลวงพ่อกลั่นแล้ว จะเดินทางไปที่ไหนก็เกิดความสบายใจและมั่นใจในการลงทุน และความปลอดภัยในทุกๆด้าน

ตะกรุด 9 ดอก ตะกรุดหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก

ยันต์เกราะเพชรหลวงพ่อปาน จี้เครื่องราง และจี้พระ หลวงพ่อเงินวัดท้ายน้ํา กรอบพระหลวงพ่อเงิน กรอบทองหลวงพ่อเงิน

ตะกรุดคู่ชีวิตหลวงพ่อพิธ ตะกรุดหลวงปู่คําพันธ์ พ่อท่านคล้ายปืนไขว้ ตะกรุด หลวง พ่อ พิธ ตะกรุด หลวง พ่อ คูณ

#ตะกรุดมหาจักรพรรดิ์หลวงปู่ดู่ วัดสะแก #แบบมีจาร #พิธีเปิดโลกปี 32 หนึ่งในเครื่องรางที่ดีที่สุดที่ต้องมี #พุทธคุณแก้ร้ายกลายเป็นดีฉับพลัน #สะท้อนคุณไสยอาถรรพ์ได้ชะงักนัก #ปกป้องคุ้มครองกันภัยจากคุณไสยอาถรรพ์ภูติผี #หนุนดวงชะตาไม่ให้มีวันตกต่ํา #ตามพุทธประวัติ ในพุทธกาล มีกษัตริย์องค์หนึงชื่อพญาชมพูบดี ตั้งแต่ท่านเกิดจะมีขุมทองเกิดขึ้นในดินแดนของท่าน ซึ่งบ่งบอกถึงบุญญาธิกาลเป็นอย่างมาก และมีอาวุธวิเศษเช่นพระบาทแก้ว เวลาสวมเข้าไปจะพาพระองค์เหาะได้ ท่านสามารถแปลงร่างเป็นพยานาคได้ และยังมีลูกศรวิเศษ หากใครไม่เคารพท่าน ท่านจะเสกลูกศรนี้ไปเกี่ยวหูคนๆนั้นให้มาสักการะท่าน เลยทีเดียว ทําให้พระองค์ดูน่าเกรงขามต่อกษัตริย์ในแว้นแคว้นในระแวก จากนั้นท่านก็ไปรุกรานพระเจ้าพิมพิสาร ซึ่งเป็นพุทธสาวก และ ณ ขณะนั้น ท่านได้สําเร็จพระโสดาบัน(อริยะขั้นต้น)แล้ว แต่ก็ไม่สามารถทําอะไรพระเจ้าพิมพิสารได้ เพราะด้วยพุทธานุภาพของพระสาวกพระพุทธเจ้า เลยทําให้พญาชมพูบดีทําอะไรท่านไม่ได้ ก็เลยแค้นใจมากๆ พระพุทธองค์ได้ทรงเล็งเห็น ว่า พญาชมพูบดี นั้นทิฐิเริ่มลดน้อยลง และมีวาสนาได้สําเร็จเป็นพระอรหันต์ จึงได้มีพุทธฎีกา ให้พระอินทร์แปลงเป็นราชทูต ไปยังเมือง พญาชมพูบดี เพื่อให้มาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ แต่ด้วยทิฐิของ พญาชมพูบดี ก็ยังไม่ยอมเข้ามา ดังนั้นพระอินทร์เลยแสดงอิทธิฤทธิ์ให้ พญาชมพูบดี เห็น จนเป็นที่ประจักต์ ท่านจึงยอมจํานน ยอมเดินทัพมาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า แต่พอเดินทัพมา พระพุทธเจ้าได้เนรมิตวัดวาอารามที่สวยงามมากๆ เหมือนปราสาทแก้ว มีกําแพงแก้ว ถึง 7 ชั้น พอพญาชมพูบดีเสด็จผ่านมา ถึงกับตะลึง ว่าทําไมยังมีแว้นแคว้นที่งดงามขนาดนี้ เล็ดลอดสายตาท่านไปได้ แม้แต่ชาวเมืองยังหน้าตางดงาม มากกว่าคหบดีในเมืองของท่านเสียอีก จึงทําให้ท่านรู้สึกขวยเขิน อาย จนเหงื่อแตก จนเสด็จมากําแพงชั้นใน ซึ่งเป็นพื้นน้ํา ท่านเลยตกใจกลัวชายผ้าจะเปียก จึงเหน็บรั้งโจงกระเบ็น พอรู้ว่าเป็นแก้วจึงอายมากๆ พอมาถึงต่อหน้าพระพุทธองค์ ซึ่งท่านเนรมิตกายเป็นพระมหาจักพรรดิ์ งดงาม ดั่งพระราชา พระพุทธองค์ได้ให้พญาชมพูบดีแสดงฤทธิ์ทําร้ายพระพุทธองค์ แต่ก็ไม่สามารถทําร้ายพระพุทธองค์ได้ จึงคลายทิฐิมานะลงมาอย่างมากเลย จากนั้นพระพุทธองค์ได้เทศนาโปรดพญาชมพูบดีและเหล่าเสนาอํามาตย์ที่ติดตามมา จนเข้าถึงรสพระธรรม จึงถอดเครื่องราชต่างๆวางลงกลับพื้น และกราบ และขอให้พระพุทธเจ้าบวชให้ จนบรรลุอรหันตผลพร้อมกันทั้งหมดเลย #ประสบการณ์จริง เรื่องราวเกี่ยวกับตะกรุดหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ นี้มีมากมาย.. เช่น เคยมีคนนําไปลองซึ่งหลวงปู่เคยเล่าให้ฟังว่า...เป็นพวกลาว หรือชาวลาว อยู่แถววัดตะโหนด พวกนี้เก่งอีกระดับหนึ่ง เขามีวิชาทําลายของขลังเก่งมาก ไม่ว่าของขลัง ของใครก็ตาม เมื่อเขาจับแล้วเสกคาถา จะต้องแตกระเบิดทุกราย.. หรือแตกย่อยสลายหมดสภาพไป....ตะกรุด รายของข้านี่ เขาได้ไปแล้ว ก็เอาไปจับเสกเป่าคาถาทําพิธีของเขา แต่ของข้าไม่แตก .....ตะกรุดของข้า มันดื้อ กลับพุ่งขึ้นทิ่มหน้า ทิ่มตาหมอผี หมอไสยลาวเสียหน้าแหก หน้าแตกไปหมด #สมัยก่อนพระโบราณจารย์นิยมสร้างตะกรุดมหาจักรพรรดิตราธิราช มอบประจําตัวผู้มีบุญหนัก ศักดิ์ใหญ่ เป็นของประจํากายพระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ ตลอดจนพระยา มหาเสนา แม่ทัพนายกอง นอกจากจะบูชาเป็นการเสริมดวง ชะตา วาสนา บารมีของเจ้าของตะกรุดแล้ว ก็มักใช้ติดตัวออกศึก ในยามสงคราม ถือกันว่าผู้ที่มีตะกรุดจักรพรรดิตราธิราชติดตัวอยู่ จะไม่ตายด้วยศาตราวุธใดๆ ภัยอันตรายใดๆ ไม่สามารถมากล้ํากรายได้เลย ประดุจมีกําแ